ฮาร์ดดิสก์พกพาแนวทนทาน แต่สวยงามรุ่นใหม่กับความจุ 2 TB

ฮาร์ดดิสก์พกพาแนวทนทาน แต่สวยงามรุ่นใหม่กับความจุ 2 TB

BoOnreAm 13:45 Add Comment
ทรานส์เซนด์ อินฟอร์เมชัน อิงค์ เปิดตัว StoreJet 25M3C ฮาร์ดดิสก์แบบพกพารุ่นใหม่ที่ใช้อินเทอร์เฟซแบบ USB Type-C ตามมาตรฐาน USB 3.1 Gen 2 โดยถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานในสภาวะสมบุกสมบัน ทำให้ฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วและมีระบบป้องกันการกระแทกสามขั้นตอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการทดสอบของกองทัพสหรัฐฯ
ภายในกล่อง จะะมาพร้อมกับสายเคเบิล USB Type-C และสาย Type-C to Type-A เพื่อความเข้ากันได้ในการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ รองรับการใช้งานบนเดสก์ท็อป แลปท็อป และเครื่องแมค ที่มีอินเทอร์เฟซ USB Type-C หรือ USB 3.1 หรืออุปกรณ์มือถือที่รองรับฟังก์ชั่น OTG (On-The-Go)
ระบบป้องกันการกระแทกแบบสามชั้นของรุ่นนี้ ประกอบด้วยตัวกันกระแทกภายในที่ทำจากยางซิลิโคน พร้อมตัวดูดซับแรงกระแทกภายใน และเคสแข็งภายนอกที่ช่วยเสริมความแข็งแรง
มีปุ่มสำรองข้อมูลอัตโนมัติบนตัวไดร์ฟ เมื่อเรากดที่ปุ่มนี้ขั้นตอนการสำรองข้อมูลก็จะเริ่มต้นขึ้นทันที ปุ่มนี้ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์เข้ากับพีซีของคุณได้อีกครั้งโดยไม่ต้องถอดปลั๊กแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ โดยจะทำงานได้ผ่านซอฟต์แวร์ Transcend Elite ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ที่รองรับการทำงานได้ทั้งบนระบบ macOS, Windows และ Android ในรูปแบบแอพพลิเคชั่น
Transcend StoreJet 25M3C มีความจุขนาด 2TB รับประกัน 3 ปี ก็เป็นอึกหนึ่งรุ่นของไดร์ฟพกพา ทรานส์เซนด์ ที่อยู่ในกลุ่มของอินเตอร์เฟซ USB Type-C ครับ ส่วนราคาในไทย ไม่ได้ประกาศออกมาเป็นทางการนะครับ คงต้องรอดูหน้าร้านที่นำเข้ามาจำหน่าย แต่แบรนด์นี้จำหน่ายกันไม่แพงแน่นอนครับ ^^
ที่มา : appdisqus.com
ลือสเปกของ Samsung Galaxy M10s ก่อนเปิดตัวในอินเดีย เร็ว ๆ นี้

ลือสเปกของ Samsung Galaxy M10s ก่อนเปิดตัวในอินเดีย เร็ว ๆ นี้

13:23 Add Comment
Samsung Galaxy M10s
            ใกล้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับสมาร์ทโฟนกล้องคู่ราคาประหยัดรุ่นล่าสุดจากซัมซุงอย่าง Samsung Galaxy M10s ที่วันนี้ก็มีสเปกหลุดออกมาแล้วครับ

ลือสเปก SAMSUNG GALAXY M10S

แหล่งข่าวจากต่างประเทศได้เผยสเปกของ Samsung Galaxy M10s ก่อนที่จะเปิดตัวในประเทศอินเดีย ออกมาแล้ว ดังนี้
  • หน้าจอ Super AMOLED แบบ Infinity-V ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720×1560 px)
  • CPU : Exynos 7885
  • RAM : 3 GB
  • ROM : 32 GB สามารถเพิ่ม microSD Card ได้
  • กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 MP f/2.0
  • กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 MP f/1.9 + 5 MP f/2.2 แบบมุมกว้าง 
  • แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh 
  • รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย One UI เวอร์ชั่นล่าสุด
  • คาดว่าราคาจะอยู่ ราว ๆ 10,000 รูปีหรือประมาณ 4,290 บาท
  • และรุ่นนี้คาดว่าจะเป็นรุ่นฝาแฝดของ Samsung Galaxy A10s ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า เพราะดีไซน์ค่อนข้างจะเหมือนกันเป๊ะแต่มีการอัพสเปกให้ดีขึ้นกว่าเดิมพอสมควร
Samsung Galaxy M10s
อย่างไรก็ตาม คาดว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ทางซัมซุงประเทศอินเดียก็คงจะเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายรุ่นนี้ในอีกไม่นานนี้แน่นอนครับ ซึ่งถ้าหากทางเว็บไซต์เรามีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของเรื่องนี้แล้ว จะรีบมาอัพเดตให้ทราบทันทีครับ
ที่มา : GSMArena, whatphone.net




MacOS Catalina พร้อมออกให้อัพเดทในเดือนตุลาคม?

MacOS Catalina พร้อมออกให้อัพเดทในเดือนตุลาคม?

09:09 Add Comment

MacOS Catalina พร้อมออกให้อัพเดทในเดือนตุลาคม?

MacOS Catalina
      สำหรับผู้ที่สงสัยว่า MacOS Catalina จะปล่อยให้อัพเดทกันวันไหน  เมื่อเร็ว ๆ นี้ Apple ได้ประกาศว่า MacOS Catalina จะพร้อมให้ผู้ใช้งานทำการอัพเดทได้ในเดือนตุลาคมนี้ครับ.       แต่วันที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัวในเดือนตุลาคม ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะปล่อย MacOS Catalina ออกมาให้อัพเดทกันวันไหนครับ หากทราบวันที่แน่ชัดทางทีมงานจะอัพเดทให้ทราบอีกครั้ง.       สำหรับ MacOS Catalina เป็นการอัปเดตระบบปฏิบัติการที่สำคัญครั้งหนึ่งในการอัพเดท  MacOS เนื่องจากมีคุณสมบัติใหม่มากมายรวมถึง Sidecar ซึ่งมีความสามารถในการใช้ iPad เป็นจอแสดงผลภายนอกสำหรับ Mac การปรับแต่งแอพได้ในตัวเช่นภาพถ่ายและการแจ้งเตือนใหม่ ๆ การป้องกันความปลอดภัยในระดับระบบปฏิบัติการ การแยก iTunes ออกเป็นสามแอพสำหรับ Music, Podcast และ TV และอีกมากมายคุณสมบัติ Sidecar ของ MacOS Catalina จะต้องใช้ร่วม iPad ที่ใช้งานระบบปฎิบัติการ iPadOS 13 หรือใหม่กว่า
      MacOS Catalina 10.15 จะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีสามารถรันและรองรับเครื่อง Mac ที่วางจำหน่ายตั้งแต่กลางปี ​​2012 หรือหลังจากนั้น .สำหรับผู้ใช้ Mac ที่ชอบการผจญภัยและต้องการใช้งานก่อนแบบไม่ต้องการรอ สามารถทำการอัพเดท MacOS Catalina public beta ได้(แต่ต้องรับความเสี่ยงเองนะครับ)โปรดทราบว่าซอฟต์แวร์ระบบเบต้านั้นมีขนาดเล็กกว่าและมีความเสถียรน้อยกว่าเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แล้วดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้สำหรับผู้ใช้ขั้นสูงเท่านั้น.

     นอกจากข่าวลือว่าจะเปิดตัว MacOS Catalina ในเดือนตุลาคมนี้แล้วยังจะมีการเปิดตัวฮาร์ดแวร์ Mac ที่ได้รับการอัปเดต อีกหลายรุ่น รวมทั้งสำหรับซอฟต์แวร์ระบบแอปเปิ้ลอื่น ๆ อาทิ iOS 13 จะเปิดตัว 19 กันยายน , iPadOS 13 จะออกวันที่ 30 กันยายนและ watchOS 6 จะเปิดตัว 19 กันยายนเช่นกัน .ยังไงก็รอติดตามกันต่อไปครับ.


MacOS Catalina เปิดตัวเดือนตุลาคม
ข้อมูล : osxdaily
เรียบเรียงโดย :



Apple เปิดตัว iPad Gen 7 ปี 2019 ราคาเริ่มต้น 10,900 บาท

Apple เปิดตัว iPad Gen 7 ปี 2019 ราคาเริ่มต้น 10,900 บาท

16:41 Add Comment

เปิดตัว iPad Gen 7 ใหม่ (2019)

iPad Gen 7 ใหม่ (2019) มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว ที่อัปเกรดมาจาก iPad Gen 6 หน้าจอ 9.7 นิ้ว รุ่นเดิม ซึ่งในรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Pencil รุ่นที่ 1 และยังรองรับ Smart Keyboard อีกด้วย

S 2334842S 2334828Lcimg 2acb5fb2 E3d4 4798 9603 A2c15b91f853

ใช้ชิปประมวลผล A10 Fusion เร็วขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า รองรับการทำงานร่วมกับ iPadOS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Lcimg Fee28af9 9327 4693 A33a E08582c2d88b

ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% มาพร้อมกล้องหลัง 8MP และมีรุ่น Cellular ด้วย รองรับการชาร์จแบบ Lightning

S 2334850 S 2334859

ความจุและราคา

รุ่น Wi-Fi

  • ความจุ 32 GB ราคา 10,900 บาท
  • ความจุ 128 GB ราคา 13,900 บาท

รุ่น Wi-Fi + Cellular

  • ความจุ 32 GB ราคา 15,400 บาท
  • ความจุ 128 GB ราคา 18,400 บาท


วันที่เปิดตัวและวันที่เปิดขาย

  • วันเปิดตัว : 10 กันยายน 2019
  • วันเปิด Pre-Order (กลุ่มประเทศแรก) : รออัปเดต
  • วันเปิดขาย (กลุ่มประเทศแรก) : 30 กันยายน 2019
  • วันเปิดขายในไทย : รออัปเดต


ที่มา : iphonemod.net

iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max สรุปสเปค ราคาเริ่มต้นประมาณ 21,400 บาท

iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max สรุปสเปค ราคาเริ่มต้นประมาณ 21,400 บาท

14:27 Add Comment

iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max เปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปแล้ว สมกับการรอคอยของแฟนๆ อย่างแน่นอน โดยมีการอัพเกรดหลายด้าน และเพื่อให้ดูกันง่ายมากขึ้น มาดูสรุปสเปคและราคาแต่ละรุ่นกันเลย

iPhone 11 and iPhone 11 Pro Specs and Pricing

สรุปข้อมูล iPhone 11

  • มีทั้งหมด 6 สีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีม่วง และ Product RED
  • ดีไซน์แบบกระจกและอะลูมิเนียม
  • ชิปประมวลผล A13 Bionic
  • แบตอยู่ได้นานกว่า iPhone XR
  • สแกนใบหน้าได้เร็วกว่าด้วยระบบ Face ID ใหม่
  • รองรับ Wi-Fi 6
  • กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้อง Wide และ Ultra-wide
  • มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน
  • ซูมได้ 2x แบบ Optical zoom
  • ใหม่ Portrait lighting สำหรับถ่ายบุคคลแบบ monochrome
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล อัพเกรดจากเดิมที่เป็นกล้อง 7 ล้านพิกเซล
  • รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีโหมด Slow-motion สำหรับถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าด้วย
  • iPhone 11 มีการป้องกันอยู่ที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
  • ราคาเริ่มต้น $699 (ประมาณ 21,400 บาท)

iPhone 11 and iPhone 11 Pro Specs and Pricing

สรุปข้อมูล iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max

  • มีให้เลือก 2 ขนาดหน้าจอ ได้แก่ 5.8 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว OLED
  • ดีไซน์แบบกระจกผิวด้านและสแตนเลสสตีล
  • หน้าจอ Super Retina XDR รองรับการแสดงผล HDR 10 และ Dolby Vision พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
  • สแกนใบหน้าได้เร็วกว่าด้วยระบบ Face ID ใหม่
  • รองรับ Wi-Fi 6
  • กล้องหลัง 3 ตัว 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้อง Wide, Telephoto และ Ultra-wide
  • กล้องหลังซูมได้ 4x แบบ Optical zoom
  • ใหม่ Portrait lighting สำหรับถ่ายบุคคลแบบ monochrome
  • กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล อัพเกรดจากเดิมที่เป็นกล้อง 7 ล้านพิกเซล
  • รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง มีโหมด Slow-motion สำหรับถ่ายเซลฟี่จากกล้องหน้าด้วย
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่ารุ่น iPhone 11
  • รองรับชาร์จเร็ว
  • iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max มีการป้องกันอยู่ที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 4 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
  • มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Midnight Green, Space Grey, Silver และ Gold

iPhone 11 and iPhone 11 Pro Specs and PricingiPhone 11 and iPhone 11 Pro Specs and Pricing

iPhone 11 Pro เริ่มต้น $999 (ประมาณ 30,600 บาท) และ iPhone 11 Pro Max เริ่มต้น $1,099 (ประมาณ 33,700 บาท)

สำหรับราคาในไทย อดใจรอกันอีกนิดนะครับ หากมีการอัพเดทจาก Apple จะมาแจ้งให้ทราบต่อไป

ที่มา :iphone-droid.net

ฟีเจอร์ Sidecar บน macOS Catalina ใช้ทำอะไร ? Mac และ iPad รุ่นไหนรองรับบ้าง ?

ฟีเจอร์ Sidecar บน macOS Catalina ใช้ทำอะไร ? Mac และ iPad รุ่นไหนรองรับบ้าง ?

11:19 Add Comment
sidecar
หลังจากที่แอปเปิลได้เปิดตัวฟีเจอร์ Sidecar บน macOS Catalina วันจะมาสรุปว่า ฟีเจอร์ Sidecar คือฟีเจอร์อะไร ไว้ทำอะไร ใช้กับ Mac และ iPad รุ่นใดได้บ้าง ?

Sidecar คืออะไร ?

ฟีเจอร์ Sidecar คือฟีเจอร์ที่นำ iPad มาเชื่อมต่อกับ Mac เพื่อใช้งานเป็นหน้าจอที่สองคล้าย ๆ กับการต่อเข้าทีวี ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพรีเซ็นต์งาน, ใช้งานร่วมกับ Apple Pencil เพื่อใช้ในการวาดเขียน, เปิดไฟล์งาน 2 หน้าจอไปพร้อม ๆ กัน
sidecar 6

แอปอะไรบ้างที่รองรับ Sidecar ในตอนนี้ ?

สำหรับแอปที่รองรับการใช้งาน Sidecar ตอนนี้มากถึง 15 แอป ซึ่งเป็นแอปสำหรับสายวาดเขียนออกแบบทั้งนั้น เช่น Adobe Illustrator, Sketch, Painter หรือว่าจะเป็นสายตัดต่อวิดีโออย่าง Final Cut Pro, Motion หรือ Maya
ซึ่งแอปทั้งหมดนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้ทันที เรียกได้ว่าไม่ต้องซื้อปากกาวาดเขียนมาเชื่อมต่อกับ Mac อีกต่อไป สามารถใช้ Apple Pencil วาดลงบน iPad และแสดงผลบน Mac ได้ทันที
และแน่นอนว่าในอนาคตก็น่าจะมีแอปที่เตรียมรองรับ Sidecar มากขึ้นอย่างแน่นอน เช่น Adobe: After Effects และ Premiere Pro ที่แอปเปิลประกาศไว้ในงาน WWDC
sidecar app

Mac รุ่นอะไรบ้างที่รองรับ ?

สำหรับ Mac ที่รองรับ Sidecar จะต้องติดตั้ง macOS Catalina และฟีเจอร์นี้จะรองรับแค่เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น เนื่องจากฟีเจอร์นี้ต้องการทรัพยากรของเครื่องพอสมควร เพราะฉะนั้น Mac ที่รองรับจะเป็นรุ่นที่ที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งได้แก่
  • iMac 27-inch (Late 2015 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Pro (2016 หรือใหม่กว่า)
  • Mac mini (2018 หรือใหม่กว่า)
  • Mac Pro (2019 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook Air (2018 หรือใหม่กว่า)
  • MacBook (Early 2016 หรือใหม่กว่า)

iPad รุ่นไหนรองรับบ้าง ?

iPad ที่รองรับ Sidecar คือ iPad ทุกรุ่นที่ติดตั้ง iPadOS ได้ ซึ่งได้แก่
  • 12.9-inch iPad Pro รุ่นที่ 1-3
  • 11-inch iPad Pro
  • 10.5-inch iPad Pro
  • 9.7-inch iPad Pro
  • iPad รุ่นที่ 5-6
  • iPad Air 2-3
  • iPad mini 4-5

วิธีการเชื่อมต่อ Mac เข้ากับ iPad มีกี่วิธี ?

เราสามารถใช้ฟีเจอร์ Sidecar ได้โดยการเชื่อมต่อ Mac เข้ากับ iPad ได้ 2 วิธีคือ การเชื่อมต่อผ่านสาย Lightninng หรือ USB-C (สำหรับ iPad Pro รุ่นใหม่) หรือว่าจะเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi วงเดียวกันก็ได้
สำหรับวิธีเชื่อมต่อก็ง่าย ๆ คลิกที่ไอคอน AirPlay ด้านบนจากนั้นเลือกชื่อ iPad ที่ต้องการเชื่อมต่อ เพียงแค่นี้ก็สามารถเชื่อมต่อ iPad เข้ากับ Mac เป็นจอที่สองได้แล้ว
sidecar 3

Sidecar มีโหมดอะไรบ้าง ?

หลัก ๆ คือมี 2 โหมดให้เลือกคือ
  • Extended Desktop ซึ่งเป็นการสร้าง Desktop ขึ้นมาอีกหน้านึง ซึ่งเราสามารถโยนหน้าต่างไปวางไว้หน้าจอบน Mac หรือ iPad ก็ได้
  • Mirror Desktop คือการแสดงผลหน้าจอ Mac บน iPad แบบเหมือนกัน

การตั้งค่าอื่น ๆ ของ Sidecar มีอะไรบ้าง ?

สำหรับการตั้งค่า Sidecar นั้นสามารถเข้าไปที่ System Preferences >> Sidecar เมื่อเข้าไปแล้ว จะมีตัวเลือกทั้งหมด 4 ตัวให้เลือก ตามภาพด้านล่าง
sidecar 2
  • Show Sidebar: จะเป็นปุ่มฟังก์ชันต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้อยู่ฝั่งไหน โดยจะมีปุ่ม command, option, control, shift, back และอื่น ๆ
  • Show Touch Bar: เป็นการแสดงแถบ Touch Bar ด้านล่างของหน้าจอ iPad นั่นหมายความเราสามารถใช้ Touch Bar ได้ ถึงแม้ว่า Mac ของเราจะไม่ได้ใช้ MacBook Pro with Touch Bar ก็ตาม
  • Enable double tap on Apple Pencil: ตัวเลือกนี้สำหรับการเปิดปิดฟังก์ชันแตะสองครั้งของ Apple Pencil รุ่นที่ 2 เพื่อเปลี่ยนเครื่องมือ หรือใช้เป็นคีย์ลัดต่าง ๆ
  • Show pointer when using Apple Pencil: คือการแสดงลูกศร เมื่อใช้ Apple Pencil
sidecar 4
สุดท้ายสำหรับใครที่ต้องการจะใช้งานฟีเจอร์ Sidecar นี้ให้อดใจรอซักนิดนึง เพราะแอปเปิลจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัปเกรดเป็น iPadOS และ macOS Catalina ประมาณเดือนกันยายนปีนี้

ที่มา –mactha , Appleinsider, 9to5Mac

















Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ มาแล้ว ฟังเพลงได้ไม่ต้องลงแอป iTunes

Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ มาแล้ว ฟังเพลงได้ไม่ต้องลงแอป iTunes

11:06 Add Comment

Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ มาแล้ว บริการใหม่ล่าสุดในการฟังเพลงออนไลน์และฟังได้ทันทีแม้ไม่มีมือถือ หรืออุปกรณ์ iOS , MacOS เพราะสามารถฟังเพลงออนไลน์ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ Apple Music เวอร์ชั่นเว็บได้เลย ซึ่งได้ขึ้นสถานะ BETA อยู่ ทั้งนี้ผู้ที่มี Apple ID และสมัครเป็นสมาชิก Apple Music สามารถทดลองใช้บริการนี้ได้ทันที

Apple Music เวอร์ชั่นเว็บภาพ Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ ถ่ายโดย iT24Hrs

โดยฟีเจอร์ต่างๆมีครบทั้งการเล่นเพลง การค้นหาเพลง , Playlist , Library และข้อมูลของผู้ใช้งาน Apple Music ในกรณีที่คุณเข้าสู่ระบบ ก็สามารถใช้บน Apple Music เวอร์ชั่นเว็บได้ ทั้งนี้ Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ ยังคงเป็น BETA อยู่และเปิดให้คุณสามารถ feedback เสนอแนะ หรือติชม แจ้งเหตุผิดพลาดไปยัง Apple ได้ด้วย

Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกลงแอป iTunes บนคอมพิวเตอร์ และผู้ที่ไม่มีอุปกรณ์ฟังเพลงอย่าง Android , iOS และ MacOS ก็สามารถฟังเพลงออนไลน์ของ Apple Music ได้ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ ซึ่งทั้งบน spotify และ joox ก็มีบริการฟังเพลงออนไลน์ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ได้ด้วยเช่นกัน

ท่านสามารถทดลองฟังเพลงผ่าน Apple Music เวอร์ชั่นเว็บ ได้ที่ https://beta.music.apple.com/th/browse ซึ่งจะมี Playlist และเพลงไทยที่ Apple Music แนะนำมาให้คุณได้รับฟังด้วย

ที่มา : it24hrs.com

ข้อมูลจาก TechCrunch

Apple ถ่ายทอดสดงานเปิดตัว iPhone 11 บน Youtube เป็นครั้งแรก

10:55 Add Comment

Apple ถ่ายทอดสดงานเปิดตัว iPhone 11 บน Youtube ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกด้วย เพราะที่ผ่านมา Apple ถ่ายทอดสดงานเปิดตัว iPhone ในทุกๆครั้งเดิมเริ่มแรกจะใช้ได้เฉพาะบน Safari บน iOS MacOS และ Apple TV เท่านั้น แต่ในช่วงหลังเริ่มที่จะรับชมผ่านหลายช่องทางได้มากขึ้น เริ่มจากบนเว็บเบราว์เซอร์ Microsoft Edge บน Windows10 และบน Chrome ต่อด้วยเมื่อปี 2018 มีถ่ายทอดสดผ่านทาง twitter live ด้วย ล่าสุดเตรียมที่จะถ่ายทอดสดบน Youtube ครั้งแรกในปี 2019 นี้

Apple ถ่ายทอดสดงานเปิดตัว iPhone 11

การถ่ายทอดสดงาน Apple Events ครั้งนี้ ทำให้ทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Youtube หรือมีแอป Youtube สามารถรับชมถ่ายทอดสดได้กว้างขึ้นมาก และลดปัญหาการเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ Apple ที่อาจชมไม่ได้บ้างในช่วงระหว่าง Keynote อยู่นั่นเอง

คุณสามารถตั้งแจ้งเตือนการ Live ครั้งนี้บนคลิป Youtube ด้านล่างนี้และรอชมพร้อมกันในคืนวันที่ 10 กันยายน 2019 ในเวลาเที่ยงคืนตามเวลาประเทศไทย


ที่มา : it24hrs.com

ข้อมูลจาก The Verge