Xiaomi เปิดตัว Mi Watch คู่แข่ง Apple Watch ของประเทศจีน!

Xiaomi เปิดตัว Mi Watch คู่แข่ง Apple Watch ของประเทศจีน!

11:58 Add Comment


Xiaomi เปิดตัว Mi Watch ก็คือ Apple Watch ของประเทศจีน!

ที่ผ่านมาไม่ใช่ Xiaomi ไม่เคยทำสมาร์ตวอตช์มาก่อน แต่ทำภายใต้แบรนด์อื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ Xiaomi เปิดตัวสมาร์ตวอตช์รุ่นแรกของตัวเองออกมาภายใต้ชื่อ Mi Watch ที่หน้าตาเรียกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก Apple Watch เต็ม ๆ เลยครับ

Mi Watch ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google แต่ครอบด้วย MIUI มีคุณสมบัติของสมาร์ตวอตช์ครบถ้วน ได้แก่ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตรวจจับกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงการนอนหลับ และการแจ้งเตือนจากสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีความจุภายใน 4GB ช่ยให้สามารถเก็บเพลงและเล่นเพลงผ่านหูฟังไร้สายได้อีกด้วย

หน้าจอออกแบบทรงสี่เหลี่ยมขนาด 1.78″ AMOLED ความหนาแน่น 326ppi เท่า Apple Watch ครอบด้วยกระจกแซฟไฟร์ ด้านหลังของตัวเรือนเป็นเซรามิกและเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ มีเม็ดมะยมและปุ่มด้านข้างเครื่องใช้สำหรับการสั่งการต่าง ๆ บนนาฬิกา

ตัวเรือนใช้ชิปประมวลผล Snapdragon Wear 3100 4G ของ Qualcomm แบตเตอรีความจุ 570mAh ใช้งานได้นาน 36 ชั่วโมง หรือเกือบสองวัน



Mi Watch มาพร้อมกับแอปพลิเคชันของบริษัท และแอปที่ถูกออกแบบเพื่อ Mi Watch กว่า 40 แอป ได้แก่แอปยอดนิยมของจีนอย่าง QQ, WeChat และแอปอื่น ๆ อีกทั้งยังมี NFC ช่วยให้สามารถทภธุรกรรมเช่นการจ่ายเงินผ่านตัวนาฬิาได้เลย และยังสามารถใช้ควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ได้อีกด้วย



ด้านการเชื่อมต่อ Mi Watch รองรับการเชื่อมต่อผ่าน eSIM, Wi-Fi, Bluetooth 5.0 และ GPS

ตอนนี้ Mi Watch เปิดให้จองในเมืองจีนแล้ว และจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ในราคาเริ่มต้น 1,299 หยวน หรือประมาณ 5,600 บาท


ขอบคุณที่มาจาก http://www.beartai.com
Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Stories แชร์ช่วงเวลาสานสัมพันธ์

Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Stories แชร์ช่วงเวลาสานสัมพันธ์

11:47 Add Comment
Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Stories ใหม่ล่าสุด หลัง facebook Dating ได้ประกาศเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้การพบรักจากสิ่งที่คุณชื่นชอบเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่มีความหมายผ่านสิ่งต่างๆ ที่มีร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 54 ของผู้ใช้งานแอพหาคู่ยอมรับว่าการสื่อสารตัวตนผ่านทางหน้าโปรไฟล์เพียงช่องทางเดียวไม่อาจช่วยให้พวกเขาแสดงออกบุคลิกที่แท้จริงได้อย่างเต็มที่
Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Storiesดังนั้น Facebook จึงประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Stories ที่คุ้นเคยบน Instagram , facebook เอง มาเสริมเป็นฟีเจอร์ใหม่บน Facebook Dating ให้สามารถแชร์สตอรี่จากทั้ง Instagram หรือ Facebook ไปยังโปรไฟล์ Facebook Dating ทำให้สามารถแบ่งปันเรื่องราวที่สนุกสนานในแต่ละวันได้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ได้สานสัมพันธ์กับคู่แมตช์และแสดงออกถึงตัวตนได้มากกว่าผ่านทางรูปภาพเพียงอย่างเดียว
Stories ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบที่โปรไฟล์ออกเดททั่วๆ ไปไม่สามารถทำได้และยังช่วยให้คุณรู้จักคนอื่นๆ ทั้งก่อนและหลังแมตช์อีกด้วย
Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Storiesเมื่อผู้ใช้งานสร้างสตอรี่บน Instagram หรือ Facebook แล้ว พวกเขาจะสามารถเลือกว่าจะแชร์สตอรี่นั้นไปยัง Facebook Dating หรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถสร้างสตอรี่จากภายในฟีเจอร์ Facebook Dating ได้โดยตรง และก็เหมือนกับโปรไฟล์ทั่วๆ ไป ผู้ออกเดทออกไลน์สามารถดูสตอรี่ของคนที่อาจเป็นคู่แมตช์ได้ และหากคุณสนใจคนเหล่านั้น  ก็เพียงแค่แตะที่ปุ่มถูกใจเพื่อให้พวกเขารู้ว่าคุณสนใจ หลังจากที่คุณแมตช์กับใครบางคน คุณยังสามารถดูสตอรี่ของพวกเขาต่อได้เพื่อทำความรู้จักคนคนนั้นให้ดีขึ้นก่อนเริ่มพูดคุยกัน
Facebook ยังคงให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรกใน Facebook Dating ผู้ใช้งานสามารถควบคุมได้ว่าต้องการแชร์สตอรี่ใดไปยัง Facebook Dating บ้าง และผู้คนที่คุณบล็อกหรือกดข้ามจะไม่สามารถดูสตอรี่ของคุณได้ หากคุณรู้สึกว่ามีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม คุณสามารถบล็อกผู้ใช้ และ/หรือ รายงานสตอรี่ได้
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการแชร์สตอรี่ไปยัง Facebook Dating จะไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ทั้งบน Facebook หรือ Instagram อยู่แล้ว แต่คนอื่นๆ ที่ใช้ Facebook Dating จะสามารถดูสตอรี่ที่คุณเลือกแชร์ไปยัง Facebook Dating ได้
Facebook Dating เพิ่มฟีเจอร์ Storiesนอกจากประเทศไทยแล้ว Facebook Dating ยังพร้อมให้บริการในอีก 19 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา, โบลิเวีย, บราซิล, แคนาดา, ชิลี, โคลอมเบีย, เอกวาดอร์, กายอานา, ลาว, มาเลเซีย, เม็กซิโก, ปารากวัย, เปรู, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ซูรินาม, ไทย, สหรัฐอเมริกา, อุรุกวัย และเวียดนาม โดยจะเปิดตัวในยุโรปช่วงต้นปี 2020
ที่มา : it24hrs.com
Apple ออกอัพเดต iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2 แก้ปัญหาแอพทำงานในแบ็คกราวด์

Apple ออกอัพเดต iOS 13.2.2 และ iPadOS 13.2.2 แก้ปัญหาแอพทำงานในแบ็คกราวด์

14:50 Add Comment
Apple อกอัพเดตใหญ่ iOS 13.2 ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำคัญอย่าง Deep Fusion ได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานจำนวนน้อยได้รายงานปัญหาบนระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่นี้ โดยเฉพาะการจัดการแรม
ปัญหาที่รายงานนั้นบอกว่าแอปอย่างเช่น Safari, YouTube จะพบปัญหาต้องโหลดเนื้อหาใหม่ทั้งหมดซ้ำ เมื่อมีการสลับใช้งานแอปกลับมา (multitasking) โดยเทียบกับ iOS เวอร์ชันก่อนหน้า ไม่พบปัญหาโหลดเนื้อหาใหม่บ่อยขนาดนี้
ทั้งนี้กลุ่มผู้ใช้ที่พบปัญหานี้จำนวนมาก ใช้ iPhone 11 และ iPad Pro ทำให้การสลับใช้งานแอปไม่ราบรื่นอย่างที่ควรเป็น ทั้งนี้ก็คาดว่าแอปเปิลจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในอัพเดตเวอร์ชันถัดไป
iOS 13.2.2 มีอะไรใหม่

iOS 13.2.2 มีอะไรใหม่ และ iPadOS 13.2.2 มีอะไรใหม่

  • แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้แอพถูกปิดอย่างกระทันหันเมื่อทำงานอยู่เบื้องหลัง
  • แก้ไขปัญหาที่อาจทำให้ iPhone สูญเสียบริการเซลลูลาร์เป็นการชั่วคราวหลังการโทร
  • จัดการปัญหาที่อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานข้อมูลเซลลูลาร์ได้ชั่วคราว
  • แก้ไขปัญหาที่ทำให้การตอบกลับข้อความอีเมลที่เข้ารหัสของ S/MIME ระหว่างบัญชี Exchange ไม่สามารถอ่านได้
  • จัดการปัญหาที่อาจทำให้การใช้บริการการลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวของ Kerberos ใน Safari แสดงการแจ้งการตรวจสอบสิทธิ์
  • แก้ไขปัญหาที่อาจขัดจังหวะการชาร์จบนอุปกรณ์เสริมที่ใช้งาน YubiKey Lightning

อัพเดตเป็น iOS 13.2.2

ผู้ใช้อุปกรณ์ที่รองรับสามารถอัปเดตเป็น iOS 13.2.2, iPadOS 13.2.2 ได้เลยผ่าน Software Update หรือจะอัปเดตผ่านคอมฯ ด้วย itunes ก็ได้

อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 13.2.2

iPhone

  • iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max (2019)
  • iPhone 11 (2019)
  • iPhone XS, iPhone XS Max (2018)
  • iPhone XR (2018)
  • iPhone X (2017)
  • iPhone 8, iPhone 8 Plus (2017)
  • iPhone 7, iPhone 7 Plus (2016)
  • iPhone 6s, iPhone 6s Plus (2015)
  • iPhone SE (2015)

iPod

  • iPod touch รุ่นที่ 7 (2019)
  • iPad รุ่นที่รองรับ iPadOS 13.2.2
  • iPad รุ่นที่ 7 (2019)
  • iPad รุ่นที่ 6 (2018)
  • iPad รุ่นที่ 5 (2017)
  • iPad Air รุ่นที่ 3 (2019)
  • iPad Air รุ่นที่ 2 (2014)
  • iPad mini รุ่นที่ 5 (2019)
  • iPad mini รุ่นที่ 4 (2015)
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3 (2018)
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 2 (2017)
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 1 (2015)
  • iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว (2018)
  • iPad Pro รุ่น 10.5 นิ้ว (2017)
  • iPad Pro รุ่น 9.7 นิ้ว (2016)
ที่มา : 1000tipsit

Motorola RAZR 2019 มือถือจอพับได้ ที่จะสะเทือน Galaxy Fold 2

14:35 Add Comment
Motorola RAZR 2019 กับการกลับมาของชื่อ RAZR ที่สร้างการสั่นสะเทือนอีกครั้งในวงการมือถือ Android คราวนี้มาในรูปแบบ มือถือหน้าจอพับได้ โดยใช้เหน้าจอที่รองรับการพับงอได้ OLED ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2,142×876 พิกเซล อัตราส่วน 21:9 ส่วนจอด้านหลัง ขนาด 2.7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 600 พิกเซล
Motorola Razr 2019
ใช้ชิปเซ็ต SnapDragon 710 แบตเตอรี่ 2510 mAh แรม 6GB หน่วยความจำภายในเครื่อง 128GB ระบบปฏิบัติการ Android 9 ราคา1,499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 45,000 กว่าบาท เริ่มจองในช่วงธันวาคม และส่งมอบเครื่องและมีขายหน้าร้านในช่วงเดือน มกราคม 2020 ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามเครื่องที่จำหน่ายเป็นเครื่องในระบบ CDMA บนเครือข่าย Verizon เท่านั้น ไม่สามารถใช้ในเครือข่ายมือถือในประเทศไทยได้
ดูดีไซด์แล้วน่าสนใจเพราะการพับนี้สามารถพกพาได้ง่ายมาก และ Samsung Galaxy Fold 2 ก็จะมาในลักษณะนี้เช่นกัน แต่ Motorola RAZR 2019 นี่เตรียมจำหน่ายก่อน เปิดตัว Galaxy Fold 2 แน่นอน รอดูทาง Samsung ต่อไปว่าจะหน้าตาแบบไหน และแตกต่างจาก Motorola RAZR 2019 มากน้อยแค่ไหน
อ้างอิง Motorola 
ที่มา : it24hrs.com