จัดการ Cache บน IE 10 เรื่องง่ายๆ แต่ใช้งานเร็วขึ้น

จัดการ Cache บน IE 10 เรื่องง่ายๆ แต่ใช้งานเร็วขึ้น

BoOnreAm 11:16 Add Comment
สำหรับคนที่ใช้ Internet Explorer อยู่ประจำ จะคุ้นเคยกันดีกับระบบจัดการต่างๆ ของตัว IE เอง ที่ทำงานได้อย่างคล่องตัว ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ใช้มักจะเข้าใจระบบดีว่า จะต้องทำอย่างไรบ้างในการจัดการสำหรับทำงานร่วมกับเว็บไซต์ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มองข้ามไปก็คือ เรื่องของระบบ Cache บนตัว IE นั้น หากมีการจัดการที่ดีแล้ว ก็จะช่วยให้การเปิดใช้อินเทอร์เน็ตนั้นรวดเร็วขึ้น อีกทั้งไม่ดึงทรัพยากรมาใช้มากจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเป็นผลดีต่อการใช้งานในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่พบปัญหาของหน่วยความจำที่เต็มเร็วหรือหน่วงเวลาที่เปิดหน้าต่าง IE ไว้มากๆ โดยวิธีการคือ


1
เปิด Internet Explorer ขึ้นมา จากนั้นเลือกที่ Internet Option

2
ในกรณีที่ต้องการพื้นที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์หรือจะลบ Cache ของ IE นั้น ให้คลิกที่ Delete… แล้วใส่เครื่องหมายหน้าหัวข้อที่ต้องการลบได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Internet Temporary, Cookies, History หรือ Data อะไรก็ตาม แล้วคลิก Delete

3
แต่ถ้าในกรณีต้องการที่จะตั้งค่าในการลบหรือการใช้พื้นที่สำหรับการเก็บ Cache สำหรับ IE ก็ให้คลิกไปที่ Settings ในหัวข้อ Temporary Internet Files ในส่วนของ Disk space to use ให้ใส่ตัวเลขเป็น xxxMB ในช่องทางขวามือ แล้วคลิก ok

4
ส่วนถ้าต้องการดูว่ามีอะไรใน Temp file ของ IE บ้าง ก็ให้คลิกที่ View files ที่แถบด้านล่างของแท็บ Temporary Internet Files จากนั้นก็สามารถดู ลบหรือแก้ไขได้ทันที
ทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบสำหรับการจัดการระบบ Cache ที่อยู่บน Internet Explorer ซึ่งผู้ใช้เองสามารถจัดการได้ไม่ยาก อีกทั้งหากทำได้อย่างสอดคล้องต่อการทำงาน ก็จะช่วยให้การใช้งานคล่องตัวยิ่งขึ้นอีกด้วย
เครื่องแฮงก์บ่อย ลอง Check error ดูหน่อยดีมั้ย

เครื่องแฮงก์บ่อย ลอง Check error ดูหน่อยดีมั้ย

BoOnreAm 11:12 Add Comment
สำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ ปัญหาที่เจอกันบ่อย นอกจากเรื่องไวรัสหรือการใช้งานซอฟต์แวร์แล้วมีปัญหา ก็ยังมีเรื่องของฮาร์ดแวร์และไฟล์ระบบ ที่บางครั้งอาจจะเกิดจากการใช้งานมายาวนาน จนบางครั้งเกิดไฟล์ขยะหรือเกิดความผิดพลาดในการทำงานร่วมกันของไฟล์ต่างๆ ซึ่งก็ทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน หลายคนเลือกที่จะติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาเข้าไปเพิ่ม แต่บางคนก็มองข้ามไปแบบไม่สนใจ จนถึงที่สุดแล้ว ค่อยฟอร์แมตลงใหม่ ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดี แต่ตามจริงแล้วบน Windows ก็มีฟังก์ชันสำหรับการดูแลตรวจสอบระบบ รวมถึงการซ่อมแซมในเบื้องต้นได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่า Check error

1
ขั้นแรกให้เรียกฟังก์ชัน Check error ขึ้นมา ด้วยการคลิกขวาที่ไดรฟ์ ใน My Computer แล้วเลือก Properties

2
จากนั้นเลือกไปที่แท็บ Tools จากนั้นคลิกที่ Check ในหัวข้อ Error checking

3
ในหน้าต่างของ Error Checking นั้น ให้เลือกที่ Scan drive เพื่อให้ระบบทำการสแกนระบบ ซึ่งจะใช้เวลามากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานและปัญหาที่เกิดขึ้น

4
เมื่อระบบทำการสแกนเสร็จ แล้วก็จะมีหน้าต่างแสดงผลขึ้นมา รวมถึงสามารถคลิกที่ Show Detail เพื่อดูรายละเอียดของการทำงาน

5
โดยในหน้าต่าง Event Viewer จะมีข้อมูลในเบื้องต้นของระบบ ที่หากมีในส่วนใดที่ผิดปกติ ก็สามารถดับเบิลคลิกขึ้นมาดูได้ทันที
เรียกได้ว่าเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ แล้วเจอกับปัญหาขึ้นกับระบบ ก็สามารถเรียกใช้ Error Checking นี้ได้ทันที นอกจากนี้ยังเป็นการเรียกใช้งานจากฟังก์ชันบน Windows เองด้วย จึง่ายและสะดวก แต่ถ้าต้องการฟังก์ชันที่ใช้ในการแก้ไขหรือปรับแต่งมากกว่านี้ ก็คงต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะมาช่วยในการทำงานดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
Web filtering กำหนดการดูเว็บไซต์ ป้องกันภัยร้ายแอบแฝง

Web filtering กำหนดการดูเว็บไซต์ ป้องกันภัยร้ายแอบแฝง

BoOnreAm 11:09 Add Comment

สิ่งที่กำลังจะพูดถึงก็คือ การที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถ Access หรือเข้าถึงข้อมูลทุกสิ่งอย่างบนโลกอินเทอร์เน็ตได้นั้น เป็นเรื่องที่อันตรายพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับข่าวสารของบุคคลต่างๆ ภายในบ้านที่ควรจะต้องมีการคัดกรอง ป้องกันไม่ให้การเข้าถึงเว็บไซต์ที่สุ่มเสี่ยง ซึ่งอาจก่อเกิดปัญหาการเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือการรับรู้ข่าวสารที่ผิดพลาด รวมถึงสื่อลามกอนาจารต่างๆ ที่ไม่ควรจะให้เข้าถึงได้อย่างอิสระเสรี ในกรณีที่มีการกำหนดตัวผู้ใช้หรือ Add user account มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้เข้าไปที่ Family Safety ที่อยู่ใน Control panel

1
ให้เลือก User ที่ต้องการกำหนดการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ โดย User นั้น ต้องมีสิทธิ์เป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือ Standard user เท่านั้น

2
เมื่อคลิกเลือก User ได้แล้ว จะเข้ามาอยู่ในหน้าของ User settings ให้กำหนดไปทีละหัวข้อ

3
Family Safety ให้เลือกที่ On, enforce current settings เป็นการเปิดโหมดการทำงานการป้องกัน

4
Activity reporting : ให้เลือกที่ On, collect information about PC usage

5
Web filtering : ในหัวข้อนี้เป็นการกำหนดบรรดาเว็บต่างๆ เป็นรายเว็บไป ซึ่งผู้ใช้จะสามารถกำหนดได้ว่าให้เข้าหรือไม่ให้เข้าเว็บใดได้บ้าง โดยให้เลือกที่ …can only use the websites that I allow

6
มีให้เลือก 2 แบบคือ Allow or block websites by rating and content type ในจุดนี้จะเป็นการจัดระดับการเข้าถึงเว็บไซต์ในแบบต่างๆ

7
Allow or block all website : จะเป็นการกำหนดตัวเว็บโดยการระบุชื่อโดยตรงว่าจะให้ Block เว็บไซต์ชื่ออะไรบ้างหรือจะให้ Access หรือเข้าถึงเว็บไซต์ใด ซึ่งจะละเอียดมากยิ่งขึ้น

รูปแบบการป้องกันทั้ง 2 แบบนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยปกป้องคนที่เราดูแล ให้สามารถเข้าถึงหรืองดเข้าใช้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี

อยากใช้ Metro Apps แต่ Resolution ไม่ถึง

อยากใช้ Metro Apps แต่ Resolution ไม่ถึง

BoOnreAm 11:03 Add Comment

น่าจะเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของหลายๆ คน ในเรื่องของคนที่อยากจะใช้ Windows 8 ร่วมกับอุปกรณ์รุ่นเก่าที่มีอยู่ เพราะในช่วงเวลาที่ Windows 8 เริ่มเปิดตัวให้ใช้นั้น ยังมี Netbook หลากหลายรุ่นให้ใช้กันอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็คงอยากนำมาใช้ร่วมกัน แต่ด้วยความที่มีข้อจำกัดบางอย่าง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ โดยเฉพาะสเปกความละเอียดหน้าจอที่กำหนดขั้นต่ำคือ 1024 x 768 pixels แต่ Netbook หลายรุ่นมีความละเอียดแค่ 1024 x 600 pixels เท่านั้น ซึ่งก็ทำให้ไม่สามารถรัน Metro Apps ได้ตามปกติ ถึงแม้จะมีแอพฯ บางตัวที่เป็น Third party มาแก้ไขเพื่อให้ใช้งานร่วมกันได้ แต่ก็ทำงานได้ไม่เหมือนกับระบบปกติ แต่ก็มีวิธีการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ด้วยการปรับค่ารีจิสทรีบางส่วนให้ระบบทำงานได้

1
ขั้นแรกให้เปิดโปรแกรม Run ขึ้นมา เพื่อเข้าสู่โหมด Registry editor ด้วยการพิมพ์คำว่า regedit แล้วกด Enter

2
เมื่อเข้าสู่หน้า Registry editor เปิดขึ้นมาแล้ว ให้กดปุ่ม Ctrl + F พร้อมกัน จากนั้นพิมพ์คำว่า display1_downscalingsupported. ลงไปในช่องค้นหา แล้วคลิกที่ปุ่ม Find

3
เมื่อหาชุดคำสั่งที่ต้องการพบแล้ว ให้ดับเบิลคลิกที่หัวข้อดังกล่าว เมื่อหน้าต่าง Edit DWORD Value ขึ้นมา

4
ให้เปลี่ยนค่าใน Value Data จากเดิม “0” ให้เป็น “1” จากนั้นปิดหน้าต่าง Registry edit แล้ว Reboot เครื่องใหม่อีกครั้ง

เมื่อบูตเข้าสู่ระบบกลับมาแล้ว ให้เข้าไปที่ Display Settings จากนั้น เข้าไปตั้งค่า Resolution จะพบว่ามีความละเอียด 1024 x 768 pixels มาให้ ให้คลิกเลือก แล้วยืนยันด้วยการ Keep change อีกครั้งหนึ่ง ระบบก็พร้อมจะทำงานบน Metro Apps ต่างๆ บน Windows 8 ได้แล้ว

ซ่อนเว็บ เปลี่ยนหน้าฉับไว ไม่ต้องกลัวเจ้านายด่าบน Windows 8

ซ่อนเว็บ เปลี่ยนหน้าฉับไว ไม่ต้องกลัวเจ้านายด่าบน Windows 8

BoOnreAm 10:54 Add Comment
สำหรับคนทำงานไม่มีอะไรที่มีความสุขไปกว่าการได้เปิดหน้าเว็บที่ตัวเองโปรดหรือแชทกับเพื่อนหรือแฟนที่อยู่ห่างไกล แต่ไฉนเลยที่บางทีเจ้านายไม่อยากจะรู้เห็นเป็นใจด้วย เปิดเฟสบุ๊กปั้บ ก็เดินเข้ามาหาปุ๊บเหมือนมีเรดาร์คอยตรวจจับ ครั้นจะปิดหน้าจอก็ไม่ทันเสียแล้ว บางทีจะเปิดหน้าจอเล็กๆ ก็มองไม่เห็นอีก จะแชททีต้องแอบๆ ซ่อนๆ เหมือนคนมีปม อย่ากระนั้นเลย การแก้ปัญหา ไม่ได้อยู่ที่จะต้องใช้โปรแกรมมาแก้ไขกันเสมอไป แค่รู้ทริกเล็กๆ น้อยๆ แล้วใช้ให้คล่อง ก็สามารถหลบหลีกได้อย่างมีชั้นเชิงอยู่แล้ว โดยใช้ฟังก์ชันง่ายๆ บน Windows 8 นั่นเอง

1.
วิธีการแรกกดปุ่ม Windows ที่อยู่บนคีย์บอร์ดปุ่มเดียวเท่านั้น ก็จะกระโดดเข้าสู่หน้า Start screen ทันที เท่านี้ก็มองไม่เห็นว่าเราทำอะไรหรือแชทกับใคร แต่ที่แย่คือ ก็ไม่เห็นว่าเราทำงานอยู่ด้วย วิธีนี้ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ เพราะดูแล้วไม่ Make sense

2.
วิธีที่ 2 ให้เลื่อนเมาส์ไปที่ด้านซ้ายมือของหน้าจอ จากนั้นเลื่อนลงมาเล็กน้อย แล้วเลือกแอพฯ อื่นสำหรับเปลี่ยนโปรแกรมทำงาน แต่วิธีนี้ต้องเป็นผู้ที่ชำนาญจริง เพราะการเลื่อนเมาส์ไปนั้น อาจจะดีเลย์อยู่ในระดับหนึ่ง รวมถึงต้องเปิดแอพฯ สำหรับทำงานรอไว้ด้วย เพื่อที่เวลาเลื่อนไปจะได้เลือกโปรแกรมอื่นขึ้นมาทำงานได้ทันที วิธีนี้แนะนำให้ใช้ แต่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญ

3.
วิธีที่ 3 น่าจะเป็นวิธีที่สะดวกมากขึ้น แต่ต้องใช้ความไวของนิ้ว ด้วยการกดที่ปุ่ม Alt + Tab โดยกดปุ่ม Alt ค้างเอาไว้ จากนั้นกด Tab เพื่อเลือกแอพฯ ในการใช้งาน วิธีนี้แนะนำว่าเหมาะสมและรวดเร็ว เพียงแต่ต้องกด 2 ปุ่มเท่านั้น แต่ให้ผลดีอย่างแน่นอน

4.
วิธีที่ 4 หากไม่ต้องการให้แสดงหน้าจอตัวอย่างขึ้นมา เพื่อสลับการใช้งานเหมือนกับ Alt + Tab เอาแบบสลับเปลี่ยนหน้าต่างโปรแกรมไปทันที โดยไม่สนว่าโปรแกรมที่เปิดขึ้นมานั้นเป็นโปรแกรมใด ก็ให้กดที่ปุ่ม Windows + 1 หรือ 2 หรือ 3 แทนไปเรื่อยๆ เพราะจะเป็นการสลับหน้าจอเปลี่ยนโปรแกรมให้ทันที โดยระบบจะจัดเรียงโปรแกรมให้อัตโนมัติ ตามลำดับที่ของโปรแกรมที่เปิดไว้ กดปุ้บเปลี่ยนปั้บ ซึ่งเรียกได้ว่าง่ายและรวดเร็ว แต่ต้องแม่นในการกดปุ่มพอสมควร

ทั้ง 4 วิธีนี้ เป็นวิธีในการสลับหน้าต่างโปรแกรม เพื่อให้เรียกใช้งานได้สะดวกขึ้น ซึ่งตามจริงแล้วก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้หลีกเลี่ยงการทำงาน แต่ถ้าฝึกฝนดีๆ ก็จะเป็นประโยชน์ได้มากทีเดียว ต้องลองนำไปใช้กันดู สำหรับคนที่ชอบเปิดโปรแกรมหลายๆ หน้าต่างหรือใช้งานหลายโปรแกรมร่วมกันในหน้าจอเดียว