หลัง Apple เปิดตัว iPhone 3 รุ่นใหม่ไปแล้ว และนี่คือ 6 เรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้ว่ามีฟีเจอร์นี้ด้วยเนื่องจากไม่ได้ประกาศบนเวที
The iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max มาพร้อม Wi-Fi 6
สิ่งที่เหมือนกับ Galaxy S10 Plus ก็คือ ไอโฟนใหม่ทั้งสามรุ่นมาพร้อม Wi-Fi 6 ช่วยให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น ส่งผลให้การรับส่งข้อมูลดีขึ้นกว่าเดิมและมีประสิทธิผลมากขึ้น ทำให้เราเตอร์และบริการ access points สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้จำนวนมากขึ้นกว่าเดิม; ช่วยให้เซ็นเซอร์และแก้ดเจ็ตไร้สายต่างๆประหยัดพลังงานมากขึ้นผ่านการตั้งเวลาส่งสัญญาณ, ทำงานได้ดีขึ้นในสถานที่ที่มีคนรวมตัวมากๆเช่น สนามบินหรือสนามกีฬา
แต่การที่เราไม่เห็นทาง Apple อวดสรรพคุณฟีเจอร์นี้เพราะตัว Wi-Fi 6 ยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นการ นอกจากนั้นตัวเราเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ยังมีราคาแพงอยู่
มีชิปใหม่ Ultra Wideband
ทาง Apple ไม่ได้ประกาศบนเวทีแต่บอกรายละเอียดผ่านหน้าเว็บ แสดงให้เห็นว่าในไอโฟนมีชิปใหม่ U1 สำหรับวัดระยะห่าง ช่วยให้จับตำแหน่งของไอโฟนเครื่องอื่นได้แม่นยำขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของฟีเจอร์ AirDrop ดีขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในระบบปฏิบัติการ iOS 13.1 แน่นอนว่านี่ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะมีข่าวลือว่าทาง Apple ซุ่มพัฒนาอุปกรณ์ติดตามพิกัดที่ชื่อว่า Apple tile อยู่
iPhone 11 Pro และ Pro Max มาพร้อมอแดปเตอร์ USB-C 18W
iPhone 11 Pro และ Pro Max มาพร้อมอแดปเตอร์ USB-C 18W ช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่าเดิมที่แถมมาให้แค่ 5W เท่านั้น ส่งผลให้การชาร์จไฟได้ 50% ใน 30 นาทีเท่านั้น
iOS 13.1 มาเร็วกว่าที่คิด
iOS 13 จะเปิดให้ดาวน์โหลดในวันที่ 19 กันยายนนี้ ซึ่ง iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่นจะวางขายในวันที่ 20 กันยายยนี้ นั่นหมายความว่าใครที่ซื้อเครื่องใหม่จะได้ใช้งาน iOS 13 ทันที ส่วน iOS 13.1 นั้นจะปล่อยให้อัพเดทในอีก 11 วันถัดไปนั่นก็คือ 30 กันยายน ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงไม่มาก
ตัวเครื่องหนักขึ้น
ในขณะที่ iPhone 11 มีน้ำหนักเท่า iPhone XR แต่ iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max ตัวเครื่องจะหนักขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดย 11 Pro หนักขึ้น 11 กรัม ส่วนรุ่น 11 Pro Max หนักขึ้น 18 กรัม น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอาจจะมาจากเลนส์และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
iPhone 11 ไม่มี 3D Touch
Apple ถอดฟีเจอร์ 3D Touch จาก iPhone XR มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งช่วยให้เข้าถึงเมนูลัดต่างๆได้ง่ายขึ้นผ่านระดับการกดที่ต่างกัน พอมาปีนี้ทุกรุ่นโดนถอดออกหมด ซึ่งเทคโนโลยีใหม่มาแทนก็คือ Haptic Touch ที่ทำงานคล้ายกัน