หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของระบบปฏิบัติการ
iOS 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด สำหรับอุปกรณ์ iDevice ภายในงาน
Worldwide Developers Conference หรือ WWDC 2016 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ล่าสุดทาง Apple ก็ได้ปล่อยให้ทำการดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งระบบปฏิบัติการ iOS 10 จะมีการอัปเกรดในด้านใด รวมถึงจะมีฟีเจอร์ใดที่น่าสนใจบ้าง ขอเชิญติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ iMessage
iMessage ได้รับการอัปเกรดให้รองรับการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น ดังนี้
- การส่งข้อความที่เขียนด้วยลายมือ (Digital Touch)
- การเปลี่ยนข้อความบางส่วนให้เป็น emoji
- emoji มีขนาดใหญ่ขึ้น 3 เท่า
- การส่งลิงค์เว็บไซต์ต่างๆ พร้อมแสดงพรีวิวหรือ Rich Links
- สามารถเบลอข้อความ หรือลิงค์ที่ต้องการส่งได้ ซึ่งต้องสไลด์ข้อความดังกล่าวจึงจะสามารถดูเนื้อหาได้
- เล่นวิดีโอจากใน iMessage ได้
- ฟีเจอร์ Tapback สามารถตอบข้อความได้อย่างรวดเร็วด้วยไอคอนการกดไลค์, ไม่เห็นด้วย, หัวเราะ และตกใจ
- พิมพ์ข้อความเฉพาะด้วยเสียงอย่างเช่น Happy Birthday
- สามารถส่งสติกเกอร์ให้กันได้
Siri ที่ฉลาดมากขึ้น พร้อมเปิดกว้างให้นักพัฒนามีส่วนร่วม
Apple พัฒนาให้ Siri มีคววามฉลาดมากยิ่งขึ้น
สามารถตอบสนองการสั่งงานด้วยเสียงได้ดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความผ่าน Social Apps หรือเรียกใช้บริการ Uber
พร้อมเปิดให้บรรดานักพัฒนาสามารถนำไปใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันแบบ Third-Party
เพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม
Apple Maps เวอร์ชันอัปเกรดรวมทุกสิ่งไว้ในที่เดียว
Apple Maps เวอร์ชันใหม่มาพร้อมการปรับเปลี่ยนดีไซน์ในหน้า Interface
และสามารถบอกเส้นทางการจราจรได้แบบ Real-Time ด้วยฟีเจอร์ Street smarter
รวมถึงสามารถค้นหาสถานที่ใกล้เคียงอย่างเช่น ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ
และปั๊มน้ำมัน อีกทั้งยังรองรับการจองบริการต่างๆ
อย่างการจองร้านอาหารได้ด้วยเช่นกัน
ควบคุมบ้านด้วยแอปพลิเคชันแสนชาญฉลาดอย่าง Home
จากแอปพลิเคชัน HomeKit มาเป็น Home ใน iOS 10
พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสิ่งต่างๆ ภายในบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดไฟ, การล็อคประตู และการเปิดหน้าต่าง
รวมถึงเน้นย้ำในด้านความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสจากปลายทางถึงปลายทาง
(end-to-end encryption) เพื่อป้องกันการดักฟัง หรือดักจับข้อมูล
Apple Music โฉมใหม่พร้อมการเข้าถึงที่ง่ายขึ้น
Apple Music ได้รับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ในหน้า Interface
ให้มีความเรียบง่ายมาก และน่าใช้งานมากขึ้น
พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถดูเนื้อเพลงจากในแอปพลิเคชันได้
Raise to wake เพียงหยิบตัวเครื่องหน้าจอก็ติด
สำหรับ iOS 10 เมื่อทำการหยิบ iPhone
ขึ้นมาหน้าจอจะสว่างเองอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องกดปุ่มโฮม หรือปุ่ม Power
สำหรับปลดล็อกที่ด้านข้างตัวเครื่องก่อน
พลิกโฉมฟังก์ชัน Lock Screen พร้อมการใช้งานรูปแบบใหม่
หน้าจอ Lock Screen
ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ได้รับการปรับเปลี่ยนจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด
โดยทำการปรับดีไซน์ในส่วนการแจ้งเตือนต่างๆ, Control Center
และตั้งค่าการแจ้งเตือน (Notification Center)
เพื่อการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
โดยสามารถอ่านรายละเอียดในส่วนของการแจ้งเตือนได้มากกว่าเดิม
พร้อมทำงานร่วมกับฟีเจอร์ 3D Touch
ในการกดลงไปที่หน้าจอเพื่ออ่านข้อความแบบเต็ม
อีกทั้งยังสามารถตอบกลับได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
เก็บทุกความทรงจำใน Photos พร้อมการจัดการที่ฉลาดยิ่งขึ้น
iOS 10 ได้เพิ่มฟีเจอร์ในการจัดการรูปภาพแบบใหม่ที่สามารถวิเคราะห์
และจดจำใบหน้าบุคคลที่อยู่บนรูปถ่ายได้ พร้อมกับสามารถแสดงสถานที่
ที่ทำการบันทึกภาพนั้นๆ
และสร้างขึ้นเป็นอัลบัมตามช่วงเวลาได้ด้วยเมนูใหม่อย่าง Memories
นอกจากนี้ยังสามารถค้นหารูปที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
Apple Pay บนเว็บเบราว์เซอร์
บน iOS 10 จะเปิดให้สามารถใช้งาน Apple Pay บนเว็บเบราว์เซอร์ พร้อมเปิดกว้างสำหรับอุปกรณ์อื่นได้มากยิ่งขึ้น
ระบบการคาดเดาคำศัพท์ที่ฉลาดขึ้น
Apple ได้ปรับปรุงให้ระบบการคาดเดาคำศัพท์บน iOS 10
มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยคาดเดาคำที่ต้องการพิมพ์ได้แม่นยำกว่าเดิมจากประวัติการพูดคุย และสนับสนุนการสนทนาหลายภาษา
รวมถึงระบุสถานที่ หรือข้อมูลติดต่อกลับแบบอัตโนมัติได้
อุปกรณ์ที่รองรับระบบปฏิบัติการ iOS 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
และก็ถึงคราวของ
iPhone 4 ที่ไม่ได้ไปต่อกับ iOS 10 โดยหลังจากการเปิดตัวของ
iPhone 7 และ iPhone 7 Plus
ทาง Apple ก็ได้บรรจุรายชื่อของ iPhone 4 เข้ารายการอุปกรณ์ที่ล้าสมัย
และจะไม่ได้รับการซ่อมแซม หรือการบริการจาก Apple Store
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่มา :
thaimobilecenter