รวมลิงก์ดาวน์โหลด iOS 9.2 IPSW ไฟล์

Apple ปล่อยให้ดาวน์โหลด iOS 9.2 อย่างเป็นทางการ กัน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับรอบนี้ iOS 9.2 นั้นมาพร้อม bulid หมายเลข 13C75 ซึ่งเป็นหมายเลขเดียวกับ iOS 9.2 beta 4 ที่ได้ปล่อยออกมาก่อนหน้านะครับ แต่สำหรับใครที่ต้องการไฟล์ iOS 9.2 ipsw ไว้สำหรับการอัปเดตหรือ restore สามารถดาวน์โหลดได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

วิธีใช้ IPSW ไปใช้งาน

หลังได้ไฟล์ .ipsw ไปใช้ให้เปิด iTunes พร้อมเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ต้องการจะรีสโตร์(ล้างเครื่อง)

• เครื่อง PC Windows ให้กดปุ่ม Shift ที่คีบอร์ดค้างไว้ จากนั้นกดปุ่ม Restore ที่ iTunes แล้วเลือกไฟล์ IPSW ที่ดาวน์โหลดไป
• เครื่อง Mac ให้กดปุ่ม Option ที่คีบอร์ดค้างไว้ จากนั้นกดปุ่ม Restore ที่ iTunes แล้วเลือกไฟล์ IPSW ที่ดาวน์โหลดไป

โหลดเฟิร์มแวร์ต้องเลือกตัวไหน?

การเลือกดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์นั้นให้สังเกตที่หลังเครื่องจะเขียนไว้ว่า Model Axxxx เช่น iPhone 5s ที่ซื้อในไทยจะมาพร้อม Model A1530 เราให้ดาวน์โหลดตามนั้น, ส่วน iPhone 6, 6 Plus, 6s, 6s Plus เลือกดาวน์โหลดได้เลยเพราะไม่มีการแบ่งแยกโมเดล

iPhone

• iPhone 6s
• iPhone 6s Plus
• iPhone 6
• iPhone 6 Plus
• iPhone 5s (Model A1453, A1533)
• iPhone 5s (Model A1457, A1518, A1528, A1530)
• iPhone 5c (Model A1456, A1532)
• iPhone 5c (Model A1507, A1516, A1526, A1529)
• iPhone 5 (Model A1428)
• iPhone 5 (Model A1429)
• iPhone 4s

iPad

• iPad Pro Wi-Fi
• iPad Pro Wi-Fi + Cellular
• iPad mini 4 Wi-Fi
• iPad mini 4 Wi-Fi + Cellular
• iPad Air 2 (Model A1566)
• iPad Air 2 (Model A1567)
• iPad mini 3 (Model A1599)
• iPad mini 3 (Model A1600)
• iPad mini 3 (Model A1601)
• iPad Air (Model A1474)
• iPad Air (Model A1475)
• iPad Air (Model A1476)
• iPad mini 2 (Model A1489)
• iPad mini 2 (Model A1490)
• iPad mini 2 (Model A1491)
• iPad (4th generation Model A1458)
• iPad (4th generation Model A1459)
• iPad (4th generation Model A1460)
• iPad mini (Model A1432)
• iPad mini (Model A1454)
• iPad mini (Model A1455)
• iPad Wi-Fi (3rd generation)
• iPad Wi-Fi + Cellular (model for ATT)
• iPad Wi-Fi + Cellular (model for Verizon)
• iPad 2 Wi-Fi (Rev A)
• iPad 2 Wi-Fi
• iPad 2 Wi-Fi + 3G (GSM)
• iPad 2 Wi-Fi + 3G (CDMA)

iPod touch

• iPod touch (5th generation)
• iPod touch (6th generation)

การดาวน์โหลดไฟล์ที่ถูกต้องนั้นจะต้องได้ไฟล์นามสกลุ .ipsw เท่านั้น (หากใครดาวน์โหลดมาแล้วได้ไฟล์เป็น .zip ไม่ต้องแตกไฟนะครับ เพียงเปลี่ยนนามสกุลจาก .zip ให้เป็น .ipsw เท่านั้นพอ) นะครับ จากนั้นจึงนะไป Shift+Restore ผ่าน iTunes

Apple ได้ปล่อยอัพเดท iOS 9.2 ตัวเต็มสำหรับ iPhone ,iPad และ iPod Touch แล้ว

         วันนี้ Apple ได้ปล่อยอัพเดท iOS 9.2 ตัวเต็มสำหรับ iPhone ,iPad และ iPod Touch ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วซึ่ง มีการปรับปรุงการใช้งาน Apple Music ,Top Stories ใหม่ในแอพ News,Mail Drop ในแอพเมลเพื่อการส่งไฟล์แนบขนาดใหญ่ และการใช้งาน 3D Touch ให้ดียิ่งขึ้น ตัวไฟล์มีขนาด 266 MB สามารถอัพเดทผ่านทาง OTA โดยเข้าไปที่ Seeting > General > Software Update

มีอะไรใหม่ใน iOS 9.2

• ปรับปรุงให้ Apple Music สามารถสร้าง Playlist ใหม่ได้ (ก่อนหน้านี้บังคับใช้ Apple Music Playlist หรือสร้าง Playlist จาก iTunes)
• เพิ่มปุ่ม iCloud Download ใน Apple Music เพื่อเซฟเพลงเก็บลงเครื่องได้โดยตรง
• เพิ่ม Mail Drop ทำให้สามารถส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้
• รองรับ USB Camera Adaptor ทำให้สามารถโอนภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัล หรือกล้อง DSLR เข้าเครื่องได้โดยตรงหลังถ่าย
• เพิ่มภาษาอาหรับให้ Siri

• การปรับปรุง Apple Music

1. คุณสามารถสร้างเพลย์ลิสต์ใหม่ได้เมื่อคุณเพิ่มเพลงไปยังเพลย์ลิสต์
2. เพลย์ลิสต์ที่คุณเปลี่ยนล่าสุดจะอยู่เป็นอันดับแรกสุดเมื่อคุณเพิ่มเพลงไปยังเพลย์ลิสต์
3. ดาวน์โหลดอัลบั้มหรือเพลย์ลิสต์ได้จากคลังเพลง iCloud ของคุณโดยแตะที่ปุ่มดาวน์โหลดบน iCloud
4. ดูว่าเพลงนั้นได้ดาวน์โหลดแล้วด้วยสัญลักษณ์ดาวน์โหลดใหม่ที่อยู่ด้านข้างของแต่ละเพลงในเพลงและเพลย์ลิสต์ของฉัน
5. ดูผลงาน ผู้แต่ง และผู้แสดงในระหว่างที่เลือกดูเพลงคลาสสิกในแค็ตตาล็อกของ Apple Music

• ส่วน Top Stories ใหม่ในแอพ News เพื่อให้คุณติดตามข่าวที่สำคัญที่สุดของแต่ละวันได้ (มีในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย)
• Mail Drop ในแอพเมลเพื่อการส่งไฟล์แนบขนาดใหญ่
• iBooks สามารถรองรับ 3D Touch ได้แล้วเพื่อใช้การ Peek และ Pop บนหน้าสารบัญ บนโน้ต บนที่คั่นหน้า หรือบนผลการค้นหาเพื่อดูหน้านั้น
• iBooks รองรับการฟังหนังสือเสียงได้แล้วในระหว่างที่คุณเลือกดูคลังของคุณ อ่านหนังสือเล่มอื่น หรือค้นดูใน iBooks Store
• iPhone รองรับ USB Camera Adapter ได้แล้วเพื่อนำเข้ารูปภาพและวิดีโอ
• การปรับปรุงเสถียรภาพของ Safari
• การปรับปรุงเสถียรภาพของแอพพ็อดคาสท์
• แก้ปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้บางคนที่ใช้บัญชีอีเมล POP ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์แนบได้
• แก้ปัญหาที่ทำให้ไฟล์แนบของผู้ใช้บางคนซ้อนทับกับข้อความของเมล
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้ Live Photo ปิดใช้งานหลังจากกู้คืนข้อมูลสำรอง iCloud ก่อนหน้านี้
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้การค้นหาในรายชื่อไม่แสดงผลการค้นหา
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้ปฏิทินไม่แสดงวันทั้งหมดเจ็ดวันในมุมมองสัปดาห์
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้หน้าจอของกล้องบน iPad เป็นสีดำในขณะที่กำลังถ่ายวิดีโอ
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้แอพกิจกรรมไม่เสถียรเมื่อดูในวันที่มีการปรับเปลี่ยนเวลา (Daylight Savings Time)
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้ข้อมูลในแอพสุขภาพไม่แสดง
• แก้ปัญหาที่อาจทำให้การอัพเดทในแอพ Wallet และการเตือนบนหน้าจอล็อกไม่แสดง
• จัดการปัญหาที่การอัพเดท iOS อาจทำให้การตั้งปลุกไม่ทำงาน
• แก้ปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้บางคนเข้าสู่ระบบ “ค้นหา iPhone ของฉัน” ไม่ได้
• แก้ปัญหาที่ทำให้การสำรองข้อมูล iCloud ด้วยตนเองทำงานไม่สำเร็จ
• จัดการปัญหาที่อาจทำให้การใช้งานแป้นพิมพ์ iPad ทำการเลือกข้อความเองโดยไม่ได้แตะสั่งงาน
• ปรับปรุงการตอบสนองของแป้นพิมพ์เวลาที่ใช้การตอบกลับอย่างเร็ว
• ปรับปรุงการป้อนเครื่องหมายวรรคตอนของแป้นพิมพ์ภาษาจีน (พินยิน & เส้นขีด) แบบ 10-ปุ่ม โดยใช้มุมมองที่เพิ่มขึ้นใหม่สำหรับสัญลักษณ์เครื่องหมายวรรคตอนและคำคาดเดา ที่ดีขึ้น
• แก้ปัญหาที่ทำให้ปุ่ม Caps Lock ของแป้นพิมพ์ซิริลลิกถูกกดใช้งานตอนที่ป้อนในช่อง URL หรือช่องอีเมล
• การปรับปรุงการช่วยการเข้าถึง
• แก้ปัญหาของ VoiceOver เวลาใช้งานกล้องกับการตรวจสอบใบหน้า
• เพิ่มการรองรับสำหรับ VoiceOver เพื่อการปลุกหน้าจอ
• เพิ่มการรองรับสำหรับ VoiceOver เพื่อการสลับแอพโดยใช้ท่าทาง 3D Touch
• แก้ปัญหาของการใช้งานเครื่องตามที่กำหนดในตอนที่จะพยายามวางสายโทรศัพท์
• ปรับปรุงการทำงานของผู้ใช้การควบคุมสวิตช์เมื่อใช้ 3D Touch
• แก้ปัญหาความเร็วของเสียงพูดหน้าจอ
• Siri รองรับภาษาอาหรับ (ซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

นอกจากนี้ Apple ยังได้อัปเดตระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงปล่อยอัปเดต

• Xcode 7.2
• Safari 9.0.2
• watchOS 2.1
• OS X El Capitan 10.11.2
• tvOS 9.1

ขั้นตอนในการอัพเดต iOS 9.2

1. ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ารองรับ iOS รุ่นล่าสุดหรือไม่
2. อัพเดต iTunes เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด 
3. สำรองข้อมูลที่สำคัญเก็บไว้ โดยเฉพาะเบอร์โทร,รูปถ่ายและข้อมูลอื่น ๆ
4. เคลียร์พื้นที่ในเครื่องให้ว่างสัก 1-2 GB
5. อัพเดต iOS จากในอุปกรณ์ของเราเองได้เลย

มาดูประวัติ Windows และรุ่นต่าง ๆ ของ Windows กัน

ก่อนจะเป็น "Windows 10" รูปไหมว่า  Windows รุ่นแรกคือไรครับ บางคนอาจเกิดไม่ทันผมยังเกิดไม่ทันเลย 555 เรามาดูประวัติของ Windows กัน

Bill Gate กับการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 1.0 ในปี 1985

              วิวัฒนาการของเครื่อง PC แบบก้าวกระโดด เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กับการเปิดตัวของระบบปฏิบัติการ Windows 1.0 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 1985 และ Windows 1.0 ก็ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของ Windows เวอร์ชั่นใหม่ๆ ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ อย่างเช่นแถบ Scroll bar, แถบเมนูแบบ Drop down, ไอคอนของโปรแกรม และโปรแกรมอย่าง Notepad และ Paint สิ่งเหล่านี้มีมาตั้งแต่ใน Windows 1.0 เมื่อ 30 ปีที่แล้ว และเราก็ยังคงใช้งานกันอยู่จนถึงทุกวันนี้
และ Windows 1.0 ยังทำให้ชาวโลกได้สัมผัสกับการใช้เมาส์ (ทาง ฝั่งของระบบปฏิบัติการ Macintosh ก็เปิดตัวเมาส์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน) เพราะก่อนหน้านี้ในระบบปฏิบัติการ MS-DOS การเรียกใช้งานโปรแกรม หรือการสั่งงานใดๆ ก็อาศัยการพิมพ์ป้อนข้อความทั้งสิ้น การที่มีเมาส์เข้ามา ทำให้ใช้งานเครื่อง PC ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
ในปี 1985 ระบบปฏิบัติการ Windows 1.0 ต้องการเพียง Floppy disk แบบเก่าจำนวน 2 แผ่น ต้องการหน่วยความจำเพียง 256 KB (เป็นขนาดที่ไม่ถึง 1 เมกกะไบต์ด้วยซ้ำ) และต้องการกราฟิกการ์ดในการรันระบบ และหากคุณต้องการรันหลายโปรแกรม พร้อมกัน ก็ต้องขยายหน่วยความจำเพิ่มขึ้นเป็น 512 KB ส่วนทางฝั่งของ Apple ในช่วงเวลานั้น มุ่งมั่นเต็มที่กับการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่สั่งงานด้วยเมาส์ และตั้งเป้าชัดเจนว่าเป็นบริษัทที่พัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการควบคู่กันไป ส่วนทางฝั่ง Microsoft วางตัวอย่างชัดเจนว่าจะเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นทางด้านการพัฒนาระบบปฏิบัติการ (รวมถึงซอฟต์แวร์) เพียงอย่างเดียว
และการเปิดตัวของ Windows 1.0 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า Microsoft มุ่งเน้นเฉพาะการพัฒนาระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์ โดยในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ทาง IBM ก็มีความแข็งแกร่งมากในการพัฒนาสถาปัตยกรรมพื้นฐานของเครื่อง PC และ Windows 1.0 ก็ถูกสร้างออกมาให้ยืดหยุ่นพอสำหรับการที่เครื่อง PC ของ IBM รวมทั้งเครื่อง PC ของแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ สามารถติดตั้งใช้งาน Windows
และยังเป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้างสำหรับการที่นักพัฒนาจะผลิต โปรแกรม ขึ้นมาใช้งานกับระบบ Windows แถมตัวระบบปฏิบัติการก็ยังมีความยืดหยุ่นและรองรับการปรับแต่งได้อย่างหลาก หลาย ด้วยเหตุของความที่เป็นระบบเปิด ทำให้ผู้ผลิตเครื่อง PC หลายรายหันมาผลิตเครื่องเพื่อรองรับการใช้งานกับระบบ Windows และบริษัทพัฒนาโปรแกรมหลายราย ก็ผลิตโปรแกรมออกมาสำหรับระบบ Windows
ด้วยคอนเซ็ปต์เริ่มต้นที่ดี ทำให้ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

เรามาย้อนเวลากลับไปดูคลิปโฆษณาเครื่อง PC ที่รัน Windows 1.0 ของเมื่อ 30 ปีที่แล้วกันดีกว่าครับ

ย้อนรำลึกหน้าตาของ Windows ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ใครทัน Windows เวอร์ชั่นไหนกันบ้างครับ ^^

WINDOWS 1.0 (1985)

WINDOWS 2.0 (1987)

WINDOWS 3.0 (1990)​

WINDOWS NT 3.5 (1994)

WINDOWS 95 (1995)

WINDOWS 98 (1998)

WINDOWS ME (2000)

WINDOWS 2000 (2000)

WINDOWS XP (2001)

WINDOWS VISTA (2007)​

WINDOWS 7 (2009)

WINDOWS 8 (2012)​

WINDOWS 10 (2015)

ที่มา :thaiware,theverge

เปิดตัว Lenovo VIBE S1 สมาร์ทโฟนกล้องหน้าคู่ครั้งแรกในประเทศไทย

เลอโนโวเปิดตัว Lenovo VIBE  S1 (เลอโนโว ไวบ์ เอส วัน) สมาร์ทโฟนหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ที่มาพร้อมกล้องหน้าคู่และดีไซน์ที่โดดเด่น ด้วยด้านหลังตัวเครื่องที่ทำจากกระจกโค้งมนพร้อมรองรับทุกการสัมผัส โดยมีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีขาวไข่มุก, สีน้ำเงินเข้ม และ สีทองแชมเปญ Lenovo VIBE  S1 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากสมาร์ทโฟนตระกูล VIBE ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธภาพในการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างล้ำสมัย
คุณสมศักดิ์ อธิศัยตระกูล, ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน, เลอโนโว กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้ใช้งานคาดหวังให้สมาร์ทโฟนมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งคุณสมบัติหลักสำหรับผู้ใช้งานคนไทยนั้น คือกล้องเซลฟี่ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม การถ่ายภาพเซลฟี่ถือเป็นรูปแบบการถ่ายภาพโดยมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่ สุด ในแต่ละวัน มีผู้คนถ่ายภาพเซลฟี่สูงถึง 1 ล้านภาพต่อวัน เพื่อเป็นการเก็บภาพทรงจำสุดพิเศษ เลอโนโวนำเสนอ Lenovo VIBE S1 ที่สุดของสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพเซลฟี่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างดีที่สุด ผู้ใช้งานคาดหวังให้สมาร์ทโฟนมีความสามารถมากขึ้น การถ่ายภาพวิวทิวทัศน์กับเพื่อนหรือครอบครัวนั้นกลายเป็นเรื่องที่เชยไปแล้ว ในปัจจุบัน ผู้ใช้งานต้องการภาพถ่ายเซลฟี่ที่โดดเด่นเพื่อการแบ่งปันผ่านทางโซเชียลมี เดีย ซึ่ง Lenovo VIBE S1 จะช่วยยกระดับให้ภาพถ่ายของพวกเขาโดดเด่นน่าหลงใหล”
กล้องหน้าคู่เพื่อเซลฟี่ที่เหนือระดับ
Lenovo VIBE S1 มาพร้อมกล้องหน้าคู่เพื่อยกระดับให้การถ่ายภาพเซลฟี่ ประกอบไปด้วยกล้องหน้าหลักความละเอียด 8 MP สำหรับถ่ายภาพที่คมชัด และกล้องหน้ารองความละเอียด 2 MP สำหรับการวิเคราะห์ระยะชัดลึกชัดตื้น หรือ Depth of Field เพื่อภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ กล้องทั้งสองสามารถทำงานควบคู่กันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างสรรค์ภาพเซล ฟี่ในมุมมองใหม่ๆ
หลังถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องคู่แล้ว ผู้ใช้สามารถเลือกใช้โหมดต่างๆที่มาพร้อมกับเครื่องเพื่อปรับแต่งภาพถ่าย ประกอบไปด้วยโหมด ‘Blur’ ซึ่งเครื่องมือสำหรับปรับเปลี่ยนจุดโฟกัสในภาพ (ปรับได้ถึง 3 จุด) และโหมด ‘Bokeh’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มลูกเล่นบนฉากหลังของภาพหรือการตัดบุคคลอื่นๆภาย ในภาพได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีโหมด ‘Cut Out’ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตัดรูปตนเองบนภาพเซลฟี่หรือภาพถ่ายบุคคลจากกล้อง หลัง และนำไปวางลงบนรูปภาพอื่นๆได้ (สามารถเลือกรูปภาพพื้นหลังจากภายในเครื่อง หรือ ดาวน์โหลดจากอินเตอร์เน็ตก็ได้) ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะถ่ายภาพเซลฟี่ที่ใด ก็สามารถตัดต่อรูปตนเองไปใส่ในสถานที่ยอดนิยมระดับโลกอย่างหอไอเฟล หรือ ทัชมาฮาลได้อย่างง่ายดาย
หมดกังวลกับปัญาหาการถ่ายภาพเซลฟ์ฟี่ในที่แสงน้อย ด้วย Lenovo VIBE S1 ที่มาพร้อมกล้องหน้าระบบเซ็นเซอร์แบบ BSI เพื่อประสิทธิภาพในการถ่ายเซลฟ์ฟี่ให้คมชัด นอกจากนี้ Lenovo VIBE S1 ยังมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดถึง 13 MP และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ phase-detection autofocus ที่ช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการโฟกัสภาพ จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด นอกจากนี้ Lenovo VIBE S1 ยังมาพร้อมกับระบบแฟลชแบบ dual-color flash ที่สามาถปรับโทนสีตามสภาพแสงรอบข้างอีกด้วยด้วย
เพิ่มสไตล์ให้โดดเด่น ด้วยการทำงานที่สมบูรณ์แบบ
ผู้ออกแบบ Lenovo VIBE S1 ให้ความสำคัญและใส่ใจในทุกรายละเอียดการออกแบบ ทำให้ผู้ใช้หลงใหลกับตัวเครื่องด้านหลังที่ทำจากกระจกโค้งมน Gorilla^® Glass  อีกทั้งดีไซน์มีความบางเฉียบเพียง 7.8 มิลมิเมตร และน้ำหนักเพียง 132 กรัม  เพื่อความสะดวกต่อการพกพาและการใช้งาน
Lenovo VIBE S1  มาพร้อมหน่วยประมวลผล 64-bit  MediaTek Octa-Core processor ยกระดับการประมวลผลที่รวดเร็วด้วย RAM ความเร็ว 3GB และ หน่วยความจำในตัวถึง 32GB (รองรับหน่วยความจำ microSD ถึง 128 GB) ซึ่งสามารถเก็บภาพถ่ายได้มากถึง 40,000 ภาพ ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android™ 5.0 (Lollipop) และมาพร้อมจอแสดงผลแบบ Full HD  ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถกดถ่ายภาพและยังสามารถแชร์ภาพได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ภาพถ่ายผ่านทางแอพพลิเคชั่น SHAREit นอกจากนี้ Lenovo Vibe S1 ระบบรองรับ 4G/LTE ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลินเพลิดกับทุกความบันเทิงอย่างสมบูรณ์แบบ
Lenovo VIBE S1 มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีขาวไข่มุก, สีน้ำเงินเข้ม และ สีทองแชมเปญ
Lenovo VIBE Shot สีขาว
ต่อยอดความสำเร็จจากการเปิดตัว Lenovo VIBE Shot สมาร์ทโฟนสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดของ ถึง 16 MP จอแสดงผล 5 นิ้ว HD Screen ด้วยดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม เลอโนโว จึงเปิดตัว Lenovo VIBE Shot ที่มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด สีขาวไข่มุก ซึ่งวางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าทุกสาขา

ราคา และ การจัดจำหน่าย

• Lenovo VIBE  S1   วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ใน ราคาเริ่มต้นที่ 10,990 บาท
• Lenovo VIBE Shot White วางจำหน่ายแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ใน ราคาเริ่มต้นที่ 11,990 บาท

ติดตามข่าวสารของเลอโนโว ได้ที่  http://www.lenovomobileth.com  Instagram และ Facebook