“สั่นสะเทือนวงการมือถือ” Apple จดสิทธิบัตรกล้องหน้าคู่และระบบซ่อมแซมตัวเองได้
Apple ได้จดลิขสิทธิ์ “Mobile Camera System” (ระบบกล้องโทรศัพท์มือถือ)
แล้ว โดยจะเป็นกล้องหน้าคู่และระบบซ่อมแซมเครื่องแบบอัตโนมัต
ให้แก่สมาร์ทโฟนรุ่นต่อไป
เคยมีข่าวลือมาก่อนว่า ทั้ง Apple และ Samsung กำลังพัฒนากล้องหน้าคู่ให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้ ทาง Apple ได้จดสิทธิบัตร “Mobile Camera System” (ระบบกล้องโทรศัพท์มือถือ) แล้ว กับ United States Patent and Trademark Office (กรมดูแลสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า) โดยรายละเอียดภายในเอกสารนั้นเผยให้เห็นถึงไอเดียอันยอดเยี่ยมของ Apple ที่จะส่งผลต่อเทคโนโลยีกล้องสมาร์ทโฟนในอนาคต

จากรายละเอียดที่เปิดเผยมา จะเห็นได้ว่ามีกล้อง 2 ตัว แต่ละตัวจะมีระยะโฟกัสต่างกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานกล้อง 2 ตัวนี้ได้ และในบางกรณีที่ภาพจากเลนส์ทั้งสองจะรวมกัน หรือเก็บภาพทั้งสองแยกออกจากกัน และมี Optical Zoom
การใช้ Optical Zoom นั้นจะใช้ได้เฉพาะกับการถ่ายด้วยกล้อง DSLR ซึ่งสมาร์ทโฟนในปัจจุบันทำได้เพียง Digital Zoom ซึ่งจะลดคุณภาพของภาพที่ได้ลงไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมาร์ทโฟนของคุณมีกล้องขนา 12 ล้านพิกเซล เมื่อใช้ Digital Zoom ในการถ่ายภาพ จะทำให้ได้ภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ถ้าใช้ Optical Zoom ภาพที่ได้จะยังคงมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
Apple ยังไม่หยุดพัฒนาแค่ Optical Zoom เท่านั้น แต่ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพ Slow Motion ได้ด้วยกล้องตัวหนึ่ง และภาพความเร็วปกติด้วยกล้องอีกตัวอหนึ่ง เมื่อนำมารวมกันก็จะส่งผลที่น่าสนใจต่อการนำไปตัดต่อใหม่
ในขณะที่ถ่ายวิดีโอ ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพนิ่งไปพร้อมกันได้ด้วย ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วใน iPhone รุ่นปัจจุบัน แต่ด้วยกล้องหลังคู่นี้ จะทำให้ได้ความละเอียดภาพที่ชัดเจนมากกว่า (ต่างจากภาพที่บันทึกวิดีโออยู่) ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผู้ใช้กำลังถ่ายวิดีโอการแข่งขันกีฬาฟุตบอล กล้องตัวหนึ่งจะบันทึกภาพจากระยะไกลของสนาม ใขณะที่กล้องอีกตัวหนึ่งก็สามารถซูมเข้าไปถ่ายภาพนักเตะในขณะที่กำลังจะทำ ประตูได้
ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกวีดีโอด้วยความละเอียดที่ต่างกันได้ กล่าวคือ วิดีโอที่บันทึกลงในสมาร์ทโฟนจะค่าความละเอียดต่างกันคือ 1080p และ 4K เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกนำไปใช้งานได้
ยังมีอีกหนึ่งสิทธิบัตรที่ทาง Apple ได้จดไปเมื่อเร็วๆนี้ คือ “Automated Maintenance of an Electronic Device” (อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ซ่อมแซมตัวเครื่องเองได้โดยอัตโนมัติ)

กล่าวคือ ระบบนี้จะทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถซ่อมแซมข้อบกพร่องของเครื่องในหลายกรณี ได้ด้วยตัวเครื่องเอง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตัวเครื่องตรวจจับได้ว่ามีน้ำเข้ามาทางช่องลำโพง จะส่งเสียงดังออกมาจากลำโพงเพื่อผลักน้ำออกไปจากช่องลำโพง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนั้น ตัวอุปกรณ์สามารถทำได้โดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องแตะตัวเครื่องเลยด้วย ซ้ำ
ในสิทธิบัตรที่จดยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมแซมจุด Dead Pixel ได้ด้วยตัวเครื่องเอง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่จากที่ทำตัวเครื่องได้ทำการตรวจสอบตัวเครื่อง ซึ่งจะใช้เวลาหลายชั่วโมงและอาจจะทำในตอนกลางคือเมื่อผู้ใช้กำลังหลับอยู่ โดยยังสามารถซ่อมแซมข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับกล้องของตัวเครื่องและระบบการ เชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วย
นี่จะยังไม่หมดสำหรับสิทธิบัตรมากมายที่ Apple จะจดทะเบียนในปีนี้ แต่คำถามคือ เราจะได้เห็นกล้องหลังคู่ใน iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus หรือไม่ และผู้คนส่วนใหญ่ก็หวังให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ที่มา : digitaltrends,gadgets.ndtv.com,beartai.com
เคยมีข่าวลือมาก่อนว่า ทั้ง Apple และ Samsung กำลังพัฒนากล้องหน้าคู่ให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปในอนาคต ซึ่งตอนนี้ ทาง Apple ได้จดสิทธิบัตร “Mobile Camera System” (ระบบกล้องโทรศัพท์มือถือ) แล้ว กับ United States Patent and Trademark Office (กรมดูแลสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า) โดยรายละเอียดภายในเอกสารนั้นเผยให้เห็นถึงไอเดียอันยอดเยี่ยมของ Apple ที่จะส่งผลต่อเทคโนโลยีกล้องสมาร์ทโฟนในอนาคต
จากรายละเอียดที่เปิดเผยมา จะเห็นได้ว่ามีกล้อง 2 ตัว แต่ละตัวจะมีระยะโฟกัสต่างกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานกล้อง 2 ตัวนี้ได้ และในบางกรณีที่ภาพจากเลนส์ทั้งสองจะรวมกัน หรือเก็บภาพทั้งสองแยกออกจากกัน และมี Optical Zoom
การใช้ Optical Zoom นั้นจะใช้ได้เฉพาะกับการถ่ายด้วยกล้อง DSLR ซึ่งสมาร์ทโฟนในปัจจุบันทำได้เพียง Digital Zoom ซึ่งจะลดคุณภาพของภาพที่ได้ลงไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมาร์ทโฟนของคุณมีกล้องขนา 12 ล้านพิกเซล เมื่อใช้ Digital Zoom ในการถ่ายภาพ จะทำให้ได้ภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ถ้าใช้ Optical Zoom ภาพที่ได้จะยังคงมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม
Apple ยังไม่หยุดพัฒนาแค่ Optical Zoom เท่านั้น แต่ผู้ใช้สามารถบันทึกภาพ Slow Motion ได้ด้วยกล้องตัวหนึ่ง และภาพความเร็วปกติด้วยกล้องอีกตัวอหนึ่ง เมื่อนำมารวมกันก็จะส่งผลที่น่าสนใจต่อการนำไปตัดต่อใหม่
ในขณะที่ถ่ายวิดีโอ ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพนิ่งไปพร้อมกันได้ด้วย ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วใน iPhone รุ่นปัจจุบัน แต่ด้วยกล้องหลังคู่นี้ จะทำให้ได้ความละเอียดภาพที่ชัดเจนมากกว่า (ต่างจากภาพที่บันทึกวิดีโออยู่) ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผู้ใช้กำลังถ่ายวิดีโอการแข่งขันกีฬาฟุตบอล กล้องตัวหนึ่งจะบันทึกภาพจากระยะไกลของสนาม ใขณะที่กล้องอีกตัวหนึ่งก็สามารถซูมเข้าไปถ่ายภาพนักเตะในขณะที่กำลังจะทำ ประตูได้
ผู้ใช้ยังสามารถบันทึกวีดีโอด้วยความละเอียดที่ต่างกันได้ กล่าวคือ วิดีโอที่บันทึกลงในสมาร์ทโฟนจะค่าความละเอียดต่างกันคือ 1080p และ 4K เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกนำไปใช้งานได้
ยังมีอีกหนึ่งสิทธิบัตรที่ทาง Apple ได้จดไปเมื่อเร็วๆนี้ คือ “Automated Maintenance of an Electronic Device” (อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ซ่อมแซมตัวเครื่องเองได้โดยอัตโนมัติ)
กล่าวคือ ระบบนี้จะทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถซ่อมแซมข้อบกพร่องของเครื่องในหลายกรณี ได้ด้วยตัวเครื่องเอง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตัวเครื่องตรวจจับได้ว่ามีน้ำเข้ามาทางช่องลำโพง จะส่งเสียงดังออกมาจากลำโพงเพื่อผลักน้ำออกไปจากช่องลำโพง ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนั้น ตัวอุปกรณ์สามารถทำได้โดยอัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องแตะตัวเครื่องเลยด้วย ซ้ำ
ในสิทธิบัตรที่จดยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมแซมจุด Dead Pixel ได้ด้วยตัวเครื่องเอง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่จากที่ทำตัวเครื่องได้ทำการตรวจสอบตัวเครื่อง ซึ่งจะใช้เวลาหลายชั่วโมงและอาจจะทำในตอนกลางคือเมื่อผู้ใช้กำลังหลับอยู่ โดยยังสามารถซ่อมแซมข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นกับกล้องของตัวเครื่องและระบบการ เชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือด้วย
นี่จะยังไม่หมดสำหรับสิทธิบัตรมากมายที่ Apple จะจดทะเบียนในปีนี้ แต่คำถามคือ เราจะได้เห็นกล้องหลังคู่ใน iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus หรือไม่ และผู้คนส่วนใหญ่ก็หวังให้มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ที่มา : digitaltrends,gadgets.ndtv.com,beartai.com
แชร์บทความนี้ให้เพื่อนรู้หน่อยดีไหม
บทความที่เกี่ยวข้อง
[Forum IT]:หน้ากากแบบไหนป้องกัน PM 2.5 ได้มาดูกัน งานวิจัยชี้ หน้ากาก N95 ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ดีที่สุด ในขณะที่การใช้หน้ากากธรรมดาประกบกับกระดาษทิชชู 2 แผ่น สามาร
Motorola RAZR 2019 มือถือจอพับได้ ที่จะสะเทือน Galaxy Fold 2 Motorola RAZR 2019 กับการกลับมาของชื่อ RAZR ที่สร้างการสั่นสะเทือนอีกครั้งในวงการมือถือ Android คราวนี้มาในรูปแบบ มือถ
ระวังแอปไฟฉาย ขอสิทธิเกินความจำเป็น อาจแอบล้วงข้อมูลมือถือคุณ ระวังแอปไฟฉาย ขอสิทธิเยอะเกิน จนผิดสังเกต อาจล้วงข้อมูลมือถือคุณได้ ส่วนใหญ่เกิดจากการโหลดแอปไฟฉายแบบ 3rd Party
แนะนำ 7 แอพพลิเคชั่นสำหรับตรวจสอบค่าฝุ่นละออง PM 2.5 แนะนำแอพเช็คฝุ่น PM 2.5 เราจะรู้ได้อย่างไรว่าในพื้นที่ที่เราอยู่นั้นมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หรือเปล่าซึ่งวันนี้ผมอ
คิดยังไงกันบ้างครับ : แสดงความเห็นให้เพื่อน ๆ รับรู้หน่อย EmoticonEmoticon